ทำให้มีอายุยืนยาว ผิวพรรณผ่องใส ไม่มีโรคภัยเบียดเบียนแล้ว การได้ไปเห็นสัตว์ที่เราลงทุนควักเงินปล่อยแบบตัวเป็นๆ จะทำให้รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจไม่มีที่เปรียบ นอกจากนี้ทานของเรายังได้ประโยชน์กับหลายฝ่าย คือ วัว-ควายนอกจากจะไม่โดนเชือดแล้ว ยังจะได้ไปที่ที่มันชอบ คือ ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในทุ่งนาฟ้ากว้าง เกษตรกรไทยที่ยากไร้ก็ได้ประโยชน์จากแรงงานของพวกมัน แล้วยังเป็นการอนุรักษ์สัตว์พื้นบ้านไทย โดยเฉพาะควาย ซึ่งทั่วประเทศเหลือประมาณ 30,000 ตัวเท่านั้น)
สำหรับคนกรุงเทพฯ ที่อยากปล่อยวัว-ควาย สถานที่ที่แนะนำคือ โรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองปทุมธานี (สาบานว่าไม่ได้ค่าโฆษณา ค่าสปอนเซอร์แม้แต่เฟื้องเดียว) เปิดทุกวันตลอดปี เว้นวันเดียวคือวันแรงงานแห่งชาติ (1 พฤษภาคม) ที่นี่เข้าโครงการธนาคารโคกระบือ ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดำเนินการโดยกรมปศุสัตว์ การทำทานของเราจึงถือว่าได้ถวายเป็นพระราชกุศลด้วยอีกโสตหนึ่ง
ก่อนออกเดินทางควรโทรศัพท์ไปจองวัว-ควายก่อน และควรไปถึงก่อนบ่าย 3 โมง (ช้ากว่านั้นเค้าอาจจะอยากปิดทำการ) ทางโรงฆ่าสัตว์มีการอำนวยความสะดวกโดยนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีทางศาสนาด้วย สามารถสอบถามดูได้
คุณหมอสัตวแพทย์เล่าให้ฟังว่า วัวควายที่ผ่านการไถ่ชีวิตจะถูกส่งไปอนุบาลเพื่อฟื้นฟูสุขภาพให้สมบูรณ์แข็ง แรง จากนั้นจะนำไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรยากจนที่ขอรับบริการ โดยเกษตรกรจะต้องมีความประพฤติดี ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเกษตรกรของธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระตาชดำริ (ธคก.) จึงจะทำสัญญากับกรมปศุสัตว์ และมีผู้ใหญ่บ้านค้ำประกัน วัวควายเหล่านี้มีระเบียบอยู่ว่า ห้ามฆ่า ห้ามขาย หรือ แกล้งให้ตายโดยเจตนา ถ้าตายหรือเจ็บป่วยต้องแจ้ง ให้สัตวแพทย์ตรวจชันสูตรหรือรักษา และถ้าตายโดยไม่มีเหตุอันควร เกษตรกรจะต้องชดใช้เงินเป็นจำนวนเท่ากับที่ผู้บริจาคไถ่มันมา
เท่าที่เคยเห็น วัว-ควายส่วนใหญ่เมื่อต้อนมาที่คอกเพื่อทำพิธีปล่อย มักจะแสดงอาการดื้อดึง แต่เมื่อเราผูกริบบิ้น (ที่นี่จะมีริบบิ้นสีๆ ให้ผูก เป็นสัญลักษณ์ว่าวัว/ควายตัวนี้ผ่านการไถ่ชีวิตแล้ว) และประพรมน้ำมนตร์โรยดอกดาวเรืองที่ทางโรงฆ่าสัตว์จัดไว้ให้ เจ้าวัวและควายน้อยจะมีกิริยาสงบระงับ บางตัวถือโอกาสกินดอกดาวเรืองแก้หิว
...มันคงจะรู้ว่า ไม่ต้องไปขึ้นเขียงแล้ว
ติดต่อโรงฆ่าสัตว์
โทรศัพท์ 02-978-0725-9
โทรสาร 02-258-6022