1. เปลี่ยน Harddisk ให้เป็นแบบ SSD โดยเฉพาะเครื่อง Mac ที่เราซื้อมานานแล้วยังใช้เป็น HDD แบบธรรมดาอยู่ เมื่อเราเปลี่ยนเป็นแบบ SSD จะทำให้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนครับ เพราะความเร็วในการเขียน/อ่านจะเร็วขึ้นเป็นสิบเท่า ดังนั้น คุณจะสามารถเปิดเครื่องพร้อมใช้งานได้ภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง สำหรับยี่ห้อที่ส่วนตัวเคยใช้ก็มี Kingston กับ Transcend ครับ
2. ทำการปิด Spotligt เพราะว่ามันจะทำการ index สิ่งที่อยู่บน Harddisk เพื่อให้เราค้นหาใน Spotlight ได้เร็วขึ้น แต่กลับเป็นผลเสียต่อ HDD ของเรา โดยเฉพาะหากเราใช้ HDD ที่เป็น SSD แล้วการทำ Index ทำให้อายุการใช้งานลดลงเพราะต้องมีการอ่านตลอดเวลา เพื่อถนอมอายุการใช้งานก็ควรจะปิดการทำงานของ Spotlight โดยมีวิธีการ ดังนี้
- ไปที่ System Preferences → Spotlight. ในช่องของ “Search Result”, ให้ติ๊กออกให้หมดครับ
3. หาก SSD รองรับฟังก์ชัน TRIM ให้ทำการเปิด Function TRIM ครับ โดยใช้คำสั่ง ดังนี้
- ไปที่ Terminal แล้ว Run command
sudo trimforce enable
- หากต้องการจะปิด TRIM ก็ใช้ command
sudo trimforce disable
หากต้องการทราบว่าขณะนี้ Disk ของเรามีสถานะ TRIM เป็นอย่างไรให้ไปที่ icon รูป Apple ด้านบนซ้าย เลือกไปที่ About This Mac จากนั้นคลิ้กเลือกที่ System Report.. แล้วไปที่ Hardware > SATA/SATA Express เลือกไปที่ Disk ที่เราต้องการจะดู จะเห็นรายละเอียดของ TRIM Support ว่าเป็น Yes หรือ No ครับ
4. ถ้าเรายังพอมีเงินเหลือให้ทำการเพิ่ม RAM ครับ ถึงแม้จะไม่ช่วยในเรื่องของความเร็วมากนัก แต่ทำให้สามารถเปิดใช้งานโปรแกรมต่างๆพร้อมกันได้มากขึ้น ซึ่งก็จะช่วยแก้ปัญหาเวลาที่เราเปิดโปรแกรมแล้วค้างเนื่องจาก Ram ไม่พอได้อีกด้วย โดย model เก่าๆ เช่น ปี 2012 ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มแรมได้ถึง 16 GB แม้ว่า Specification ที่เค้ากำหนดมาจะบอกว่ารองรับแค่ 8 GB แต่สามารถใส่ได้ถึง 16 GB ครับ หากไม่มั่นใจก็ลองสอบถามทางร้านที่เราซื้อหรือให้ร้านใส่ให้ก็ได้นะครับ
5. นอกจากนี้ อาจจะใช้โปรแกรมเสริมเพื่อทำการ Clean RAM หรือ File ต่างๆที่ไม่จำเป็นครับ
ถ้าทำตามนี้ทั้งหมดเครื่อง Mac ที่เราซื้อไว้หลายปีที่แล้วก็จะยังนำมาใช้งานได้สบายๆ ไปได้อีกนานครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะครับ